วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

Personal Tax: ภาษีคนเดินดิน ภาค 2 "หนทางลดหย่อน"

กลับมาอีกครั้งหลังหายหน้าหายตาไปนานเหมือนกัน แต่เนื่องจากว่าอยากจะแชร์วสิ่งดีๆเลยต้องหาเวลาว่างกลับมาอีกครั้งกับเรื่อง "ภาษี" เรื่องง่ายๆที่หลายคนมองข้าม มาต่อกันดีกว่านะครับเพื่อไม่ให้เสียเวลา

ส่วนลดหย่อน
ส่วนลดหย่อนนั้นทางสรรพากรมีไว้เพื่อให้เราใช้ลดการเสียภาษีให้น้อยลง แต่ไปเพิ่มผลด้านอื่นๆให้กับประเทศ ช่วยให้เกิดการลงทุนมากขึ้น เรามาลองดูว่าเราจะลดหย่อนอะไรได้บ้าง

1) ลดหย่อนส่วนตัว ผู้เสียภาษีได้สิทธิลดหย่อน 30,000 บาท ถ้ามีภรรยาหรือสามีที่ไม่ได้มีรายได้หรือมีรายได้แต่คิดภาษีรวมกันก็ลดหย่อนได้อีก 30,000 บาท รวมเป็น 60,000 บาท (หลายๆคนคงคิดหาคู่สมรสกันเป็นแถว)
2) ลดหย่อนของบุตร ลดได้ 15,000 บาทและ 17,000 บาทสำหรับบุตรศึกษาต่างประเทศและในประเทศตามลำดับ โดยมีข้อแม้ว่า ต้องอายุไม่เกิน 20 ปี หากเกินจะต้องศึกษาอยู่ระดับอุดมศึกษาแต่ได้ไม่เกิน 25 ปี (อยากลดได้เยอะต้องให้ลูกๆเรียนต่อปริญญาโทและเอกกันนะครับ)
ปล. ถ้าคู่สามีแยกกันคิดภาษีได้กันคนละครึ่งนะครับ
3) บิดามารดา (อายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่มีเงินได้ด้วย) แบ่งออกเป็นบิดามารดาของผู้เสียภาษีและคู่สมรส ได้ 30,000 บาท รวมถึงเบี้ยประกันสุขภาพบิดามาราดาได้อีก 30,000 บาท ถ้าแยกกันเสียก็คิดบิดามารดาของใครของมัน
4) ลดหย่อนเพื่อสังคม คือคนพิการ (ที่มีบัตรลงทะเบียนเป็นผู้พิการ) ได้คนละ 60,000 บาท ถ้าสามีภรรยาอุปถัมป์ด้วยกันก็ได้คนละ 30,000 บาท (อันนี้ดีทั้งได้บุญและลดหย่อนภาษีด้วย
5) สวัสดิการส่วนตัว
ประกันชีวิต ลดหย่อนตามจริงของเบี้ยประกันที่เสียไป แต่จะต้องมีอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไปและมีผลตอบแทนไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกัน (หลายๆคนชอบทำประกันเพื่อลดหย่อนกันมาก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพลดหย่อนได้ไม่เกิน 10,000 บาท หากเกินให้ไปหักกับค่าใช้จ่าย (แนะนำพนักงานบริษัทควรทำไว้)
กองทุนรวมระยะยาว ลดหย่อนได้เท่ากับที่ลงทุนซื้อกองทุนไปแต่ไม่เกิน 15%ของรายได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ดอกเบี้ยกู้ยืมจากอสังหาริมทรัพย์ ลดหย่อนตามที่จ่ายจริงในปีเสียภาษีแต่ได้ไม่เกิน 100,000 บาท
กองทุนประกันสังคม ลดหย่อนตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 9,000 บาท

เงินบริจาค
ก่อนที่เราจะนำเงินที่หักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนไปคำนวณภาษี เราสามารถนำยอดเงินบริจาคให้กับภาคส่วนต่างๆของรัฐ (ที่สรรพากรกำหนดไว้) ทั้งด้านการศึกษา สุขอนามัย การกีฬาและอื่นๆอีกมากมาย (ลองโหลดจาก rd.co.th) โดยสามารถนำไปหักก่อนคิดภาษีได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินที่หักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนภาษีแล้ว ส่วนเงินบริจาคพรรคการเมืองนั้นไม่คิดรวมนะครับ

เงินได้สุทธิ
หลังจากหักค่าใช้จ่าย ลดหย่อนและเงินบริจาคแล้ว เราก็สามารถนำเงินที่ได้หรือที่เรียกว่า "เงินได้สุทธิ" ไปคำนวณหาภาษีได้

เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน - เงินบริจาค


หลักการคำนวณภาษีก็ง่ายๆไม่ยากผมก็ขอไม่เอ่ยอะไรมากก็แล้วกัน

สรุปในภาคนี้ก็จะพบว่า จำนวนเงินการเสียภาษีบุคคลธรรมดานั้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิ ยิ่งเงินได้สุทธิสูงๆ ฐานอัตราการเสียภาษีก็สูงตามด้วย ดังนั้นถ้าอยากเสียภาษีน้อย ก็ต้องมีเงินได้สุทธิน้อยๆ ซึ่งจากสมการด้านบน ก็จะได้ว่าถ้าต้องการเงินได้สุทธิน้อยๆ ก็ต้องเพิ่มค่าลดหย่อนและเงินบริจาคมากๆ นี่ก็เป็นหลักง่ายๆ

หวังว่าภาคนี้จะให้ประโยชน์สำหรับคนทำงานที่เสียภาษีทุกคน เห็นมั้ยครับไม่ต้องเลี่ยงภาษีก็เสียภาษีน้อยๆได้ ช่วยชาติและได้บุญด้วย พบกันใหม่ครั้งหน้า...สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น