วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ใครทำลายโชห่วย

ใครทำลายโชห่วย


หัวข้อวันนี้ถือว่าอาจจะแรงในคำพูด แต่ถ้าตอนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะตอนนี้นั้น ห้างค้าปลีกเล็กใหญ่อัดกระหน่ำ แปลงร่างเป็นเอ็กตร้ากันเป็นแถว รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตติดแอร์อย่างท๊อปส์และฟู๊ดแลนด์ก็เริ่มรุกคืบกลุ่มตลาดของตน รวมถึงการรุกคืบของเจ้าพ่อร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่ตอนนี้น่าจะใกล้เคียง 10,000 สาขาเข้าไปทุกทีแล้ว ซึ่งถ้าถามว่าการเจริญเติบโตงอกงามของทั้งค้าปลีกทั้งเล็กทั้งใหญ่ รวมทั้งร้านสะดวกซื้อที่แทบจะกวาดพวก 108 Shop หรือ Fresh Mart ตกขอบไป หรือห้างค้าส่งอย่าง Makro 




ถ้าถามผมว่าใครทำโชห่วยร่วงเป็นใบไม้ร่วง ผมตอบได้เลยคำเดียวว่า 7-11 นี่ล่ะตัวดี เพราะตอนนี้กฎหมายการเปิดค้าปลีกขนาดใหญ่นั้นถูกจำกัดด้วยระยะทางจากชุมชน ทำให้ค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซีและโลตัสต้องปรับกลยุทธ์เป็นบิ๊กซีจูเนียร์ โลตัสเอ็กเพลส เพื่อหาช่องทางหลบกฎหมายมาชนกันตามร้านขนาดเล็ก ซึ่งพี่เบิ้มอย่าง 7-11 ก็กระอักเพราะกลายเป็นยักษ์กำลังลงมารุมกินโต๊ะ


สถานกราณ์ตอนนี้ ขอพูดระดับบิ๊กๆเขาฟัดกันนะครับ




7-11 ปรับกลยุทธ์สู้บิ๊กซีจูเนียร์และโลตัสเอกซ์เพลส ที่เปิดสาขาจี้ก้น ชนิดประตูชนประตู โดยยอมสละกลุ่มลูกค้าเครื่องอุปโภคไปให้สองพี่เบิ้มฟัดกันเอง โดยสร้างจุดขายคือ "อิ่มสะดวก" ขายของบริโภคการกินแทน


ในส่วนของค้าปลีกขนาดใหญ่ตอนนี้ก็ระดมทุนกันเปิดชนกันจังหวัดต่อจังหวัด ถ้าอำเภอไหนเจริญๆก็เปิดด้วย อย่างสามชุก สุพรรณบุรี อำเภอเงียบๆเล็กๆกลับมีโลตัสเบ้อเริ่มไปตั้งซะงั้น แต่ก็ถูกตีวงด้วยกฎหมายทำให้ไปไล่ฟัดกันชานเมืองแต่ก็ดุน่าดู






แม็คโคร ท่านนี้ก็ยังคงถือคติครองใจโชห่วย โดยประกาศตนเลยว่าเป็น "มิตรกับโชว์ห่วย" จัดงานให้โชห่วยทั้งประเทศมาออกบู๊ทกันเป็นแถว


ร้านโชห่วยที่อยู่ตามชุมชนต่างๆ มีพฤติกรรมการขายที่เน้นพวกสินค้าอุปโภค เช่น แฟ้บ สบู่ น้ำมันพืช อะไรทำนองนี้ ซึ่งจะเน้นขายขวดขนาดกลางๆ ที่ลูกค้าจะแวะมาซื้อยามฉุกเฉิน สินค้าบริโภคก็เป็นพวกเหล้า น้ำดื่มเย็นๆ หรือไม่ก็พวกบัตรเติมเงิน






หลังจากรู้พฤติกรรมโชห่วยกันมาแล้ว มาดูกันว่า 7-11 นั้นทำลายโชห่วยยังไง ไม่ต้องพูดถึงเลย ตรงไหนมีชุมชน ตรงนั้นมีโชห่วยและ 7-11 ซึ่งใครๆก็ต้องเข้า 7-11 อยู่แล้วเพราะติดแอร์น่าเดินกว่า ต่อให้โชห่วยปรับเปลี่ยนยังไงก็ยากจะเทียมทานได้ ยิ่งสินค้าบริโภคที่ 7-11 เน้นอยู่แล้วทั้งเหล้า เบียร์ โค้ก เป๊บซี่ สารพัดชาเขียวที่ลงกันเต็มตู้ ทำให้โชห่วยนั้นสูญเสียรายได้ตรงนี้ไปพอสมควร ซึ่งพวกนี้นั้นมีส่วนต่างหรือ Margin สูงมากๆ เล่นเอาสะเทือนกันเลยทีเดียว


อีกอย่างตอนนี้ผู้ผลิตมักไม่นำของไปขายตามร้านธรรมดาแล้ว โดยจะเน้นขายตาม 7-11 อย่างเดียว สังเกตได้จากโฆษณาตามโทรทัศน์ที่จะแปะโลโก้ของ 7-11 ไปด้วย ซึ่งหมายความว่าหาซื้อได้ที่ 7-11 แน่นอน


จากปริมาณและกลยุทธ์ "อิ่มสะดวก" รวมถึงการยึดหัวหาดตามชุมชนของ 7-11 จะทำให้ร้านโชห่วยที่เปิดอยู่ดั้งเดิมสะเทือนไปมากพอควร อาจจะไม่ทำลายให้พินาศ แต่ก็อาจจะอยู่ไม่ได้


พรุ่งนี้ ชาวโชห่วยไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะ SMEfriend จะขนกลยุทธ์ที่เอาไว้ชนกับ 7-11 ที่สามารถประคองให้เรารอดจากน่านน้ำสีแดง (Red Ocean) นี้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น