วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

AEC Effects: ผลกระทบการท่องเที่ยวไทยหลัง AEC

สวัสดีพี่น้องชาว SME หรือ SMEfriend ทุกๆคน หลังจากหายไปกว่าสัปดาห์ วันนี้ก็กลับมาให้หายคิดถึงกับบทความที่ ณ ตอนนี้เมื่อดูจากสถิติของบล็อกก็ต้องเน้นไปเรื่องของ AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเกิดขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า (2015) หรือปีพ.ศ. 2558 ซึ่งเชื่อว่าหลายล้านคนในประเทศไทยยังไม่ทราบเรื่องและก็คิดว่าเมื่อเวลามาถึงก็อาจจะงงและปรับตัวไม่ได้ ซึ่งยังไงถ้ายังไม่เข้าใจในรายละเอียดก็สามารถกลับไปหาอ่านได้จากบทความของ SMEfriend เก่าๆดูนะครับ ตามลิงค์นี้เลย


วันนี้กลับมาพูดถึงอีกครั้งเพราะเนื้อหาสำคัญของ AEC คือการเคลื่อนย้ายทุน วัตถุดิบ แรงงานได้อย่างเสรีโดยไม่มีการกีดกันระหว่าง 10 ประเทศอาเซียน สำคัญแค่ไหนไม่รู้แต่พม่าก็ยังเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แล้วกัน ซึ่งวันนี้จะมาพูดถึงการท่องเที่ยวซึ่งจะเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทยที่ได้รับผลกระทบแน่นอนเพราะว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางหรือฮับในเรื่องของการบิน ซึ่งจะทำให้มีผู้คนเข้าออกมาประเทศมากมายปีละหลายสิบล้านคน ทั้งในเรื่องของธุรกิจและการท่องเที่ยว (ทั้งในและนอกประเทศ) ซึ่งจริงๆแล้วผู้ประกอบการหลักๆในธุรกิจท่องเที่ยว เช่น ภาคบริการ โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวจะต้องปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งไทยนั้นจะเป็นจุดกระจายของนักท่องเที่ยวคาบสมุทรอินโดจีนนี้ทั้งทางพม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซียและสิงคโปร์


กลับมาเรื่องของท่องเที่ยวกันต่อ มองจากภาพกว้างในการเป็นฮับ ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงและเต็มๆหลังจากที่นักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารลงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก็คือ ธุรกิจการขนส่ง เช่น แท็กซี่ รถลิมูซีน รถบัสปรับอากาศ นั้นจะได้รับอานิสงไปเต็มๆ ดังนั้นธุรกิจดังกล่าวจะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงในด้านของการบริการหรือ Service Mind ทั้งของพนักงานขับรถ พนักงานต้อนรับ และที่สำคัญคือในเรื่องของภาษา ที่ต่อไปภาษาอังกฤษนั้นจะมาเป็นภาษาที่มีอิทธิพลต่อการค้าขายมาก หากเกิดปัญหาการสื่อสารก็อาจจะเกิดความไม่พอใจของลูกค้าก็เป็นได้


ต่อมาคือของภาคบริการที่อยู่ในเส้นทางของการท่องเที่ยว ต้องบอกก่อนเลยว่าจะต้องแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยก็คือ
1) ภาคบริการในส่วนของเส้นทางท่องเทียวภายในประเทศ
2) ภาคบริการในส่วนของเส้นท่องท่องเที่ยวในภูมิภาค


ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบเต็มๆแต่ก็ไม่ได้แปลว่าสองเส้นทางจะเป็นเส้นเดียวกัน เพราะเป็นที่รู้ดี
ว่าการท่องเที่ยวในประเทศนั้นจะเป็นพวกแหล่งท่องเที่ยวดังๆ เช่น กทม. อยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ชลบุรี ซึ่งก็จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวมากเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจภาคบริการ ได้แก่ ที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า ฯลฯ จะต้องมีการปรับตัวในเชิงกลยุทธ์เพื่อดึงดูดและรองรับลูกค้าเอาไว้ เพราะการที่ปรับตัวได้ก่อนและมีการยืดหยุ่นในกลยุทธ์สูงก็จะสามารถรองรับลูกค้าได้ดีกว่า ซึ่งเรื่องของการบริการและภาษายังเป็นประเด็นสำคัญมาก


ในส่วนของกลุ่มเส้นทางท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนนั้นจะเริ่มมีการท่องเที่ยวที่คึกคักมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะไทยสามารถเข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้านได้หลายทาง เนื่องจากมีชายแดนติดกันไม่มีทะเลขวางกั้น ซึ่งจังหวัดที่อยู่ในชายแดนที่มีช่องผ่านใหญ่ เช่น อรัญประเทศ (สระแก้ว) แม่สอด (ตาก) แม่สาย (เชียงราย) หนองคาย อะไรพวกนี้จะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นคนละกลุ่มกับปัจจุบันเพราะต้องการเอาไทยเป็นช่องทางผ่านไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นในเมื่อเราเป็นทางผ่านซึ่งก็จะต้องปรับตัวเองให้รองรับ หรือการดึงดูดนักท่องเที่ยวเอาไว้ให้เม็ดเงินอยู่กับประเทศไทยมาก อย่างน้อยการปรับปรุงเรื่องสถานที่พักเพื่อรอออกนอกประเทศก็จะทำเงินให้มากขึ้น ในส่วนของจังหวัดรายทางนั้น การเป็นจุดพักรถไม่ว่าจะชั่วคราวหรือค้างคืนก็ต้องให้ความสำคัญอย่าคิดว่าขับรถ หรือนั่งเครื่องบินผ่านไปแล้วจบ อย่างน้อยก็ต้องมีกลยุทธ์ให้เงินออกจากกระเป๋าให้ได้บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น