วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

Watching Big Brands: มองแบรนด์ดัง ปรับแบรนด์ตัวเอง

สวัสดีพี่น้องชาว SME หรือ SMEfriend ทุกๆคน หลังจากหายไปกว่าสัปดาห์ วันนี้ก็กลับมาให้หายคิดถึง โดยวันนี้กลับมาเรื่องของการตลาดสักหน่อย เพราะหลายวันที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้นั่งคิดเล่นๆเกี่ยวกับแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศทำให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบหลายอย่างที่เกิดขึ้นตามมา วันนี้จะเอามาเล่าให้ฟังหลายๆตัวอย่างเลยล่ะกัน แล้วก็หวังว่าหลายๆคนที่อ่านจะเอาไปปรับตัวเพื่อใช้กับธุรกิจของตนเอง

Apple เริ่มกันด้วยความเปลี่ยนแปลงของบริษัทยักษ์ใหญ่วงการคอมพิวเตอร์ หลังจากการจากไปของ CEO “Steve Jobs” หลายๆคนก็นึกว่าถึงคราวที่ยักษ์ใหญ่จะเพลี้ยงพล้ำ เพราะคู่แข่งอย่าง Samsung นั้นได้กระหน่ำออกสินค้ามาก แต่ที่ไหนได้ ภายใต้การนำทัพของ Tim Cooke ซีอีโอคนใหม่นั้นกลับตรงกันข้าม เพราะรายได้จากการขาย iPhone 4S นั้นมีสถิติมากกว่าตอนที่จ๊อบส์อยู่เสียอีก และอีกเร็วๆนี้ก็จะปล่อย iPad3 ออกมาตอกย้ำผู้นำด้านแท็บเลตอีกครั้ง ซึ่งเหตุผลของเรื่องนี้ตอบได้เลยว่าสาวกของแอปเปิ้ลไม่ได้ยึดติดกับบุคคล เพราะเขายึดติดกับผลิตภัณฑ์มากกว่า ลูกค้ายังเชื่อใจในสินค้าของแอปเปิ้ล ส่วนตัวบุคคลก็เป็นอีกเรื่องไป แต่ถ้ามองกลับมาที่บ้านเราอย่าง OISHI ที่เมื่อคุณตันขายหุ้นทั้งหมดและได้ลาออกไปหลังจากอยู่ช่วยมา ก็พบว่าผู้บริหารคนใหม่ยังไม่เข้าใจการตลาดของคุณตันแม้แต่น้อย ทำให้ ICHITAN ก้าวจาก New Comer เข้ามาเป็นคู่แข่งที่สำคัญของสงครามชาเขียวไปได้ ทิ้งห่างยักษ์อีกรายอย่างเพียวริคุไปเลย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คุณภาพยังไงก็มาก่อน”

Truemove H 3G+ หลายๆคนยังไม่รู้ว่า Truemove นั้นจะหมดสัมปทานมือถือในปี 2555 นี้ ดังนั้นจะต้องมีอีกเครือข่ายมารองรับลูกค้ากว่าสิบล้านเลขหมาย ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายดังกล่าวนั้นจะสร้างความสับสนมึนงงให้กับลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมมากทั้งการเปลี่ยนเครือข่ายและความมั่นใจเครือข่ายในอนาคต H เลยจัดการออกแคมเปญ 3G ทั่งประเทศมากลบความสับสนที่จะเกิดขึ้น ด้วยการนำเอา 3G มาหลอกล่อให้ลูกค้ายอมลำบากเปลี่ยนจาก Truemove ธรรมดามาเป็น Truemove H 3G+ ซึ่งลูกค้าจะมองข้ามความยุ่งยากไปเนื่องจากได้คุณภาพของเครือข่ายที่ดีขึ้นในด้านการเชื่อมต่อ ซึ่งรวมถึงโปรโมชั่นที่จัดหนักเพื่อดึงดูดลูกค้ารีบเปลี่ยนเครือข่ายก่อนจะถึงสิ้นปี ซึ่งจะเกิดความโกลาหลมากกว่านี้ รวมถึงช่วงเวลาดังกล่าวคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง DTAC เองก็เพลี้ยงพล้ำกับการบริการสุดห่วยด้านอินเตอร์เน็ตและกลยุทธ์ที่ผิดพลาดดันไปลงทุนในด้าน WIFI บนห้างสรรพสินค้า โดยลืมสนใจไปว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของตนนั้นมีทั้งกทม.และต่างจังหวัด ซึ่ง ณ ช่วงนี้เองอาจจะทำให้ Truemove หรือ H 3G+ อาจจะแซงขึ้นมาเป็น Market Share อันดับสองก็ได้ ต้องดูกันยกต่อยกเลยก็ว่าได้
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “กลยุทธ์ผิด คิดจนตัวตาย”

TESCO LOTUS หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้เกิดสงครามเส้นเขียวเกิดขึ้นกับสองห้างยักษ์อย่าง Lotus และ BigC จนเหมือนกับว่า BigC จะแพ้ไปเนื่องจากโลตัสได้เปรียบการเข้าถึงมากกว่าในพท.ต่างจังหวัด แต่ BigC เองก็แก้ลำแก้เกมกลับมาด้วยการจัดหนักบอกทั้งประเทศว่า “ของตนเองถูกกว่า” แถมยังบอกว่าสินค้าของคู่แข่งใดใครถูกกว่าจะคืนเงินพร้อมชดเชยให้ด้วย แถมการ Take Over ห้างดังอย่างคาร์ฟู ทำให้ BigC ยังอยู่ใน เกม จนมาถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Lotus ได้ประกาศว่าของตนถูกกว่าที่อื่นกว่าหมื่นรายการ เล่นเอาสงคราวห้าง Convenience Store กลับมาระอุรับหน้าร้อนและเทศกาลสงกรานต์อีกครั้ง ซึ่งเมษายนนี้จะได้เห็นแต่ละค่ายกลับมาจัดหนักอีกแน่นอน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่ายอมแพ้ ทุกปัญหามีทางออก”

รายการชิงร้อยชิงล้าน ช่า ช่า ช่า ระเห็ดระเหินออกจากช่อง 7 หลังจากการปลดฟ้าผ่าคุณแดง ทำให้เฮียประวิทย์ไม่รอช้า หลังจากกุมขมับมานานกับเรทติ้งของ ”ตีสิบ” ที่ตกลงอย่างน่าใจหาย ดันดาราก็ออกทะเลไปเยอะ เรื่องผีก็กู้ชื่อไม่ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่า “เสี่ยตา ปัญญา” เขาเป็นเจ้าพ่อทีวีอยู่แล้วจัดหนักละครสามช่าชิงเรทติ้งไปครองหลายปี สบโอกาสก็ชวนเข้าบ้านพระรามสี่เพื่อจะได้ประกาศ “ข้าครองทีวี” แบบเบ็ดเสร็จ หลังจากย้ายมาปุ๊บ เสี่ยตาก็จัดหนักปั๊บโดยการเพิ่มสเกลของละครสามช่าเข้าไปให้นานและยิ่งใหญ่ขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ชมในกลุ่มที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าไม่น่าจะไปรอดเพราะรายการนี้ไม่คุ้นเคนยกับช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงวันอาทิตย์ ที่ไหนได้กลับได้ขยายกลุ่มคนดูได้เพิ่มอีกต่างหากทำให้บ่ายสามเป็นช่วงเวลา “ช่า ช่า ช่า” อย่างแท้จริง ซึ่งเรียกได้ว่าครองช่วงเวลาเจ้าเดียวในประเทศเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ปรับปรุงตัวเองเข้าสถานการณ์เสมอ”

สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้แล้วกัน หวังว่าคงได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น