วันนี้มาพูดถึงเรื่องการค้าขายดีกว่า เพราะได้อ่านในหนังสือเล่มหนึ่งจำชื่อไม่ได้บอกไว้ว่า "ปีนี้เป็นปีแห่งธุรกิจแฟรนไชส์" ก็เลยจำมาแล้วจะเอามาเล่าให้ฟัง สำหรับตอนนี้หลายๆคนยังลังเลว่าจะเปิดธุรกิจอย่างไรดี จะเริ่มต้นเองหรือหาผู้ช่วยมาช่วยดี ลองอ่านดูแล้วกันนะครับว่าจะเลือกแบบไหนดี
แฟรนไชส์คืออะไร
แฟรนไชส์ เป็นธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การซื้อแบรนด์และสินค้าของเจ้าของจริงไปขายต่อ โดยมีการบริหารงานเองหรือเจ้าของจริงมาบริหารให้ สามารถอธิบายให้เข้าใจง่าย จากตัวอย่าง "นาย ก. มีธุรกิจขายซาลาเปาและกาแฟอยู่ตลาดในตอนเช้า ต่อมาธุรกิจเริ่มดีขึ้นๆ จนลูกค้าต้องต่อคิวนาน จนลูกค้าหลายๆคนบ่น เขาจึงคิดจะขยายสาขาของร้านเพื่อให้ลูกค้าได้สะดวกในการซื้อมากขึ้น แต่การขยายสาขานั้นต้องหาหน้าร้าน (Shop) ตามแหล่งต่างๆซึ่งเขาไม่มีเวลาไปเสาะหา เพราะแค่ทำสูตรหมูหมักก็หมดเวลาในแต่ละวันแล้ว เขาจึงต้องหาคนที่จะนำไปขายแทน นาย ข. เป็นลูกค้าประจำของนาย ก. ได้ยินนาย ก. บ่นเรื่องขยายสาขา จึงบอกนาย ก. ว่าจะขอนำซาลาเปาไปขาย นาย ก. ลังเลใจแต่ใจก็อยากขยายกิจการ จึงบอกนาย ข. ว่าจะให้ซาลาเปาไปขายในลักษณะซาลาเปาดิบ ให้นาย ข. ไปนึ่งเองตามที่นาย ก. แนะนำวิธีไป แล้วให้ใช้ชื่อร้านของนาย ก. โดยจะต้องเสียค่าชื่อร้าน (คล้ายๆกับค่าลิขสิทธิ์) ให้นาย ก. ปีละ 1,000 บาท แค่นี้นาย ข. ก็มีธุรกิจเป็นของตนเองแล้ว" >>> จากตัวอย่างง่ายๆนี้ก็บอกให้เห็นความหมายของแฟรนไชส์
เจ้าของผลิตภัณฑ์ >>> ขายต่อสินค้า ลิขสิทธิ์ >>> ผู้ซื้อแฟรนไชส์
ขอบคุณภาพจาก http://www.giveyousuccess.com/wp-content/uploads/2010/01/Franchise.gif
ทำไมถึงต้องแฟรนไชส์
สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตอยู่รอดต่อไปได้คือการเพิ่มจำนวนของผู้อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง (Owner) แต่เนื่องจากว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นใช้เงินทุนสูงพอสมควร เพราะเหมือนตั้งต้นตัวเองใหม่ทั้งหมด ทั้งการจัดซื้อวัตถุดิบ สถานที่ การตกแต่งร้าน คนงานในร้าน ข้าวของเครื่องใช้ ฯลฯ สารพัดที่จะนึกได้ ทำให้หลายๆคนยังลังเลว่าจะเริ่มต้นยัง แต่ธุรกิจแฟรนไชส์นั้นสามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดที่เอ่ยถึงไว้ได้ดี เพราะธุรกิจแฟรนไชส์คือการก๊อปปี้เจ้าของมาให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ทันที ผู้ซื้อธุรกิจฯก็แทบไม่ต้องสรรหาอะไรมาให้เลย เพราะทั้งร้าน การตกแต่ง วัสดุ อุปกรณ์ จิปาถะนั้นธุรกิจฯเขาเตรียมไว้ให้ในจำนวนเงินที่จ่ายแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งมีค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท ซึ่งจำนวนเงินทั้งหมดนั้นรวมทุกอย่างไว้แล้ว รวมถึงการฝึกอบรมก่อนขายด้วย ยกเว้นแต่ค่าร้าน ค่าน้ำค่าไฟ และวัตถุดิบรายวันที่เป็นต้นทุนผันแปร
ยังไงดีระหว่างเจ้าของธุรกิจกับซื้อแฟรนไชส์
ประเด็นนี้ตอบยากเพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆด้านทั้งด้านการเงิน ความรู้เฉพาะบุคคล โอกาสธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งทั้งสองอย่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เช่น แฟรนไชส์ต้องทำตามกฎของเขาที่ตั้งไว้แต่ธุรกิจของตนเองสามารถปรับเปลี่ยนอะไรเองได้ตามสภาพความเป็นจริง หรือธุรกิจตนเองไม่ต้องเสียค่ารายปีหรือลิขสิทธิ์ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) แต่เจ้าของตนเองไม่ต้องมีส่วนนี้ หรือธุรกิจตนเองต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยจนกว่าจะเหมาะสม แต่แฟรนไชส์เขาเตรียมมาให้แล้วผิดถูกเขาลองมาหมดแล้ว ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องมาวิเคราะห์พวก SWOT หรือ Five Forces Model ดูเอาว่าธุรกิจของเราที่สนใจนั้นเริ่มต้นเหมาะกับอะไร จะเริ่มต้นแบบไหนก่อน
ก่อนจะจบจากกันไปในวันนี้ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจ เริ่มต้นมันไม่ได้สวยงามเหมือนที่ฝัน มันต้องล้มลุกคลุกคลานไม่ว่าจะแบบไหน แต่ขอให้เริ่ม..ก็ประสบความสำเร็จแล้ว
สุดท้ายนี้แนะนำเว็บไซต์รวมธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆเจ้าเอาไว้ด้วยกัน ลองเข้าไปชมกันได้และเลือกให้เหมาะกับตัวเอง สวัสดีครับ...
www.thaifranchisecenter.com
http://www.franchise108.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น