วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Tablet กระดานชนวนเพิ่มพลังธุรกิจ

Tablet กระดานชนวนเพิ่มพลังธุรกิจ


ตอนนี้ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว ซึ่งต้นปีหน้ารัฐบาลก็จะนำร่องใช้ Tablet ในการศึกษาเป็นครั้งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ (ไม่รวมในมหาวิทยาลัยเอกชน) ซึ่งเร็วๆนี้ก็มีการเรียกพบตัวแทนของ Apple เข้าหารือ โดยมีทั้งเสียงชื่นชมและวิจารณ์ตามมา ซึ่งในทางการเมืองจะว่าเป็นกระแสประชานิยมหรือไม่อย่างไร ผมคงไม่อาจไม่วิเคราะห์ได้เพราะนั่นคือเรื่องของนักการเมือง แต่ผมยินดีในฐานะคนที่จะได้เห็นลูกหลานได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการเล่าเรียนบ้าง ถึงมันอาจจะมีผลในทางลบตามมาบ้าง แต่ในทางบวกผมว่ามีมากแน่นอน อย่างง่ายๆลูกหลานเราไม่ต้องแบกหนังสือให้หลังค่อมอีกต่อไป เพราะเราสามารถอัดเนื้อหาลง Tablet ได้อย่างมากมาย อย่างต่ำก็ 16GB ซึ่งได้ไฟล์ pdf เกี่ยวกับเนื้อหาการสอนเป็นล้านๆหน้าแน่นอน พอดีได้เข้าไปดูใน Youtube เลยเอาผล Feedback ของการใช้ Tablet มาให้ดูนิดหน่อย




นั่นก็เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของการเริ่มประยุกต์ใช้ Tablet ในการศึกษาไทย (ขอขอบคุณโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนจริงๆที่ริเริ่มอะไรดีๆเพื่อเด็กไทย) ข้อดีต่อมาหากเป็นมุมมองทางธุรกิจก็คือ ธุรกิจที่อยู่ใน Cluster หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างง่ายๆ หากโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ถูกเป็นโรงเรียนนำร่องล่ะก็ ผมเองก็จะรีบไปหาซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Tablet ต่างๆมาขายหน้าโรงเรียนแน่นอน เช่น แผ่นปิดหน้าจอ (Cover) ชุดหูฟัง (Headphone) ฯลฯ นี่ก็เป็นผลกระทบในด้านดีๆ ซึ่งเมื่อถูกนำมาใช้จริง รับรองผมจะรีบเขียนช่องทางการทำมาหากินกับ Tablet แน่นอน


กลับเข้ามาเรื่องของเราวันนี้ดีกว่า ช่วงนี้หน้าหนาวแล้ว อะไรๆก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งไม่นานการท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง วันนี้หลังจากอ่านข่างเรื่อง Tablet ของรัฐบาลก็เลยคิดว่าจะเขียนเรื่องการนำมาประยุกต์ใช้บ้างในภาคธุรกิจ ซึ่งจริงๆแล้วหลายๆองค์กรในไทยและทั่วโลกก็เริ่มนำเอา Tablet มาใช้ในการทำงานมานานหลายๆปีแล้ว โดยช่วงแรกนั้น Tablet จะถูกนิยมในการนับสต๊อกสินค้า เพราะสามารถออนไลน์ข้อมูลได้ทันทีไม่ต้องมาเสียเวลาในการนับแล้วจดลงกระดาษ แต่ว่าในสมัยก่อนนั้น Tablet นั้นมีราคาสูงพอๆกับ Notebook ต้องเป็นองค์กรใหญ่เท่านั้นถึงทำระบบแบบนี้ได้ แต่ปัจจุบัน Tablet ราคาถูกมากๆตั้งแต่ 8,000-25,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อในขณะนี้ 
แต่ในปัจจุบันหลายองค์กรได้นำเอา Tablet มาใช้ในการทำงานหลากหลายมากขึ้นทั้งการประชุม การแชร์ข้อมูลภายในองค์กร การนำเสนอผลงาน การนำเสนองานแก่ลูกค้า ซึ่งข้อดีของ Tablet ก็คือ


สามารถใช้งานได้ทุกที่ขอแค่มีสัญญาณมือถือหรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายก็พอ ซึ่งทุกวันนี้เดินไปไหนก็มีสัญญาณให้ใช้มากมาย ทำให้ในตอนนี้เราไม่ต้องนัดประชุมที่ห้องประชุมก็ได้ เราสามารถประชุมผ่าน Tablet หลายๆคนพร้อมกันก็ได้ หรือนัดประชุมลูกค้าตามสถานที่ต่างๆได้ทุกเมื่อรวมไปถึงรับ-ส่งอีเมลได้แบบทันเวลา (Real Time) ทำให้การสื่อสารภายในองค์กรนั้นง่ายขึ้น ยิ่งหากเป็นองค์กรใหญ่ๆที่สามารถจ้างนักพัฒนาทำโปรแกรมสำหรับใช้งานภายใน เช่น การตรวจสอบสต๊อกสินค้า การแชร์ไฟล์ไว้ที่ส่วนกลาง รวมไปถึงการทำ KM หรือ การจัดการองค์ความรู้ในองค์กร (Knowledge Management) เพราะเราสามารถสร้างสรรความรู้และจัดเก็บไว้่ในส่วนกลางและแชร์ให้ผู้อื่นๆในองค์กรได้รับรู้ได้


ผู้ประกอบการขนาดเล็กไม่ต้องตกใจว่าธุรกิจตนขนาดเล็กนิดเดียวจะคุ้มหรือไม่ ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆให้ว่าข้อดีของ Tablet สำหรับเจ้าของธุรกิจนั้นมีอะไรบ้าง
1. เจ้าของธุรกิจสามารถทำงานนอกสถานที่ทำงานได้ เพราะสามารถรับ-ส่งอีเมลได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการคิดหรือติดต่อเพื่อเพิ่มช่องทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น
2. การนำเสนอผลงานผ่าน Tablet ซึ่งผู้ประกอบการขนาดเล็กจะไม่ต้องแบกโน๊ตบุ๊คเครื่องโตพร้อมเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ไปไหนมาไหนแล้ว ขอแค่มีตัว Tablet และสาย HDMI ก็พอ ก็สามารถพรีเซนต์งานผ่านโทรทัศน์ได้แล้ว




3. การใช้ระบบช่วยเตือนความจำ โดยเปรียบเสมือนเลขาส่วนตัว ซึ่งอาจจะไม่ต้องมีเลขาที่เป็นคนจริงๆก็ได้ อย่างโปรแกรม SIRI ของค่าย Apple นั้นก็กำลังเป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน สามารถบันทึก โต้ตอบข้อความอีเมล สอบถามสภาพอากาศ การจราจร ฯลฯ




วันนี้ก็นำเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Tablet ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ซึ่งยังไงก็แล้วแต่ต้องยอมรับว่าวันนี้เราปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น