ซึ่งการที่จะทำให้เครือข่ายเราแข็งแกร่งนั้นช่องทางของสื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อธิบายง่ายๆว่าบางครั้งสื่อทางเฟซบุ๊คอาจจะไม่เกิดประโยชน์สูงสุดกับบางธุรกิจ เช่น ธุรกิจอาหารเสริมสำหรับคนสูงอายุ ซึ่งเกือบ 100% ของผู้สูงอายุในไทยไม่ได้ใช้เฟซบุ๊คอย่างแน่นอน ดังนั้นสื่อแบบนี้อาจจะไม่ได้ผลมากที่ควร ว่าแต่เราจะเลือกช่องทางของสื่อแบบไหนดี
จากรูปด้านบนเป็นภาพแสดงสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ social media อย่างเช่น ในการแบ่งปันข้อมูล (Sharing) การโพสต์ข้อมูล (Feed) เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง (Content) ฯลฯ ลองไปศึกษาตามรูปได้เลย
มาต่อกันเรื่องของช่องทางของสื่อสังคมออนไลน์กันอีก ปัญหาเดียวคือการเลือกช่องทางให้ถูกให้เหมาะสม วันนี้ลองมาดูกันเป็นแนวทางกันดีกว่า
สื่อสิ่งพิมพ์หรือบทความที่เป็นตัวอักษร
ช่องทางที่นิยมของสื่อประเภทนี้ก็ต้องเป็น Blogger (Google เป็นเจ้าของ) หรือ Wordpress ซึ่งเราสามารถสร้างคอลัมน์หนังสือหรือบทความเราได้เองและสามารถโพสต์ได้ตลอดเวลา และมีวิธีการที่ง่ายๆมากเหมือนกับการพิมพ์ลงบน MS Word ซึ่งสามารถทำเองได้ โดยอาจขอยืมพื้นที่แต่สมัคร Domain Name ของเราใช้ได้ ซึ่งถือว่าในเรื่องของการเขียนบล็อกนั้นก็ได้รับความนิยมมานานแล้ว ที่สำคัญคือฟรี
สื่อรูปภาพ/ วิดีโอ/ สไลด์
ที่ได้รับความนิยมก็คงไม่พ้นพวก Youtube สำหรับสื่อวิดีโอ ซึ่ง Google เป็นเจ้าของทำให้ง่ายต่อการค้นหาจากลูกค้า ถ้าอยากแชร์ไฟล์พวกรูปภาพนั้นก็ต้องพวก Flickr หรือ Picasa Web Album ซึ่งมีพื้นที่ให้เราไม่จำกัด และสามารถแชร์ภาพให้คนทั่วโลกดูได้และสามารถทำงานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เช่น Facebook หรือ Twitter ได้ ส่วนถ้าเป็นพวกข้อมูลไฟล์นำเสนองานก็ต้องนี่เลย "Slideshare" โดยทุกอย่างสมัครฟรี
การสนทนา/ ถกปัญหาออนไลน์
ในบางธุรกิจที่ต้องมีการคุยกันเรื่องเทคนิคเฉพาะอาจจะต้องมีช่องทางไว้คุยออนไลน์ 24 ชม. อาจจะต้องลองใช้พวก MSN messenger, Skype หรือตอนนี้ผมเองก็ลองใช้ Chatroll เป็นออนไลน์แชทเว็บได้
พูดคุยสังคมออนไลน์ 24 ชม.
ไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เกือบธุรกิจในโลกต้องมีหน้า Fan Page ของเฟซบุ๊คไว้ลองรับลูกค้าของตนในการนำเสนอข่าวคราว ซึ่งสามารถติดต่อพูดคุยได้ตลอดและเป็นสิ่งที่เรียกว่าฮิตมากที่สุดในพ.ศ.นี้ ข้อดีของเฟซบุ๊คคือมี App มากมายในตัวเองในการเชื่อมโยงสื่อในช่องทางต่างๆได้ เช่น Slideshare, Picasa Twitter ฯลฯ
บันทึกสั้น (Microblog)
อันนี้ก็ต้องเป็น Twitter เยที่ได้รับความสนใจสูงสุด ทวิตเตอร์จะลูกเล่นน้อยกว่าเฟซบุ๊คแต่เน้นการสื่อสารโดยตรง สั้นๆแต่ได้ใจความ และไม่ยุ่งยากเหมือนเฟซบุ๊ค หลายๆคนดังในแวดวังธุรกิจและดารานิยมใช้ในการบอกข่าวสารของตนเอง ซึ่งใช้งานได้ง่ายสะดวกมาก
วันนี้พอแค่นี้ก่อน แต่พรุ่งนี้จะกลับมาพูดอีก 4-5 ข้อที่เหลือ แล้วเจอกันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น