วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อยากทำธุรกิจ แต่คิดไม่ออก???

ทุกวันนี้ค่าครองชีพของประเทศก็สูงขึ้นทุกปี ไข่ดาวจากราคา 5 บาทเป็น 10 บาท ถ้าคิดง่ายๆเรากินไข่ทุกวัน ก็หมดไป 300 บาทต่อเดือนแล้ว ดังนั้นหลายๆคนที่มีอาชีพเป็นลูกจ้างบริษัทก็ต้องมานั่งทบทวนเงินเดือนตัวเองว่าแต่ล่ะเดือนพอหรือไม่และไม่พอจะทำอย่างไร

หลายๆคนก็มองหาอาชีพเสริมที่ทำหลังเวลาทำงาน เวลาว่างเสาร์อาทิตย์ บางคนลองผิดลองถูก ได้บ้าง เจ๊งบ้าง คละเคล้ากันไป บางคนจับถูกทาง ทำธุรกิจที่เปิดช่องว่างก็รวย รายได้มากกว่าเงินเดือนถือว่าโชคดีไป บางคนหมดไปเยอะ ลงทุนไปแทบหมดตัว สุดท้ายทุนยังแทบไม่เหลือ ลองมาดูกันว่า เราจะเริ่มธุรกิจ เราควรเตรียมตัวยังไงบ้าง

1. สำรวจความสามารถตนเอง ก่อนที่เราจะไปขายอะไรหรือนำเสนออะไรให้ชาวบ้านเขา เราต้องรู้จักตัวเราก่อนว่าเราถนัดและมีความสามารถอะไรบ้าง เช่น บางคนเป็นฝ่ายขาย ก็พอจะมีทักษะการขายบ้างก็อาจจะเปิดร้านจขายของ บางคนถนัดงานช่าง ก็อาจรับจ้างซ่อมแซมตามบ้าน ข้อสำคัญคือ อย่าไปฝืนตัวเอง ถ้าไม่ถนัดก็อย่าไปดันทุรัง เพราะจะเหนื่อยและมีอารมณ์จนหงุดหงิดทำการงานเสียไป เช่น เห็นเพื่อนเปิดร้านเสริมสวย แต่ตัวเองไม่ใช่คนตามแฟชั่น สุดท้ายก็ไปไม่รอด

2. สำรวจต้นทุนตัวเอง เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะทุกอย่างเดี๋ยวนี้ก็เป็นเงินเป็นทอง อาจจะลงทุนมาก ลงทุนน้อยก็แล้วแต่ธุรกิจ แต่อย่าให้เดือดร้อนไปถึงเงินเดือนตัวเอง เพราะเผื่อเจ๊งขึ้นมา เราจะแย่เพราะแหล่งเงินสุดท้ายที่จะเลี้ยงชีพก็จะหมดไป ทางที่ดีก็ต้องเริ่มเก็บหอมรอมริบเงินเอง เช่น เราจะเปิดร้านขายไก่ทอด คิดแล้วต้นทุนเริ่ม 10,000 บาท เราก็ควรเก็บเงินส่วนนี้ไปทำธุรกิจ ส่วนรายได้เราก็เอาไปหมุนใช้ เงินกำไรก็เอามาลงทุนต่อ ทางที่ดีหลังจากเรารู้แล้วว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร เราก็มองยังเงินทุนที่ดี ธุรกิจอะไรที่ใช้ต้นทุนน้อยแต่กำไรดี สภาพคล่องสูง ควรมองเป็นอันดับแรก

3. มองโลกภายนอก หมายถึงมองโอกาสทางธุรกิจ อย่าเอาแต่ความมั่นใจของตัวเองมาวัดเข้าข้างตนเอง เราต้องดูด้วยว่าตอนนี้ธุรกิจไหนกำลังมา ธุรกิจไหนกำลังตัน อะไรที่เขาแห่ทำ ก็ลองเลี่ยงๆบ้าง ไปหาหนทางใหม่ ลองหาธุรกิจที่กำลังก่อตัว แต่ยังไม่ตั้งตัว เพราะถ้าเราไปตามเขา เราก็จะมีคู่แข่งมากเป็นเรื่องธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้ร้านกาแฟสดนั้นขึ้นเป็นดอกเห็ด ตรงไหนๆก็มี เราก็อย่าไปตามเขา เรามองให้ไกลกว่านั้น ถ้าเรามีฝีมือด้านพวกนี้ ก็ลองไปเปิดร้านขนมเค้กส่งให้ร้านกาแฟแทน เราก็จะมีคู่ค้ามากขึ้นด้วยแถมไม่มีคู่แข่ง หรือไม่ก็อาจจะไปนำเข้าเม็ดกาแฟเข้ามาขายพวกร้านกาแฟแทน

4. อย่ารอเวลา พวกทำธุรกิจที่รอเวลา สุดท้ายจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอย่าคิดว่าเราคิดอยู่คนเดียว คนอื่นเขาก็คงมองเห็นช่องทางเหมือนเรา ดังนั้นถ้าคิดอะไรแล้ว มองความเป็นไปได้ ทำแผน ถ้านึกไม่ออกก็ลองทำ PDCA ในส่วนของ P-Plan ก็วางแผนทั้งการผลิต การเงิน การขาย ดูว่าเป็นไปได้ขนาดไหน เช็ค IRR ดูว่าคุ้มค่ามั้ย ถ้าโอเค ก็ลุยเลย

5. ตั้งเป้าให้ตนเอง ก็เหมือนธุรกิจขนาดใหญ่ จะต้องมีการตั้งเป้าหมายของธุรกิจด้วย เราจะได้มีทางเดินให้ไปถึงจุดหมาย เพราะถ้าไม่ตั้งเป้าหมายเราก็จะทำธุรกิจไปเรื่อยๆไม่มีอะไรมากระตุ้น เช่น กำหนดรายได้ในหกเดือน กำไรในหนึ่งเดือน แล้วเอาข้อมูลมาประมวลผลว่า เราควรไปต่อ แล้วไปอย่างไร ไปด้วยวิธีการไหน

นี่ก็เป็น 5 ข้อ ของการเริ่มทำธุรกิจขนาดเล็กๆ หวังว่าจะเอาไปประยุกต์ใช้กันดูนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น