หลังจากเมื่อวานได้เขียนถึงความโหดร้ายในท้องน้ำสีแดง โดยสรุปทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าหากว่าแหล่งเดิมของธุรกิจเป็นโลกที่โหดร้าย เหลือแต่ปลาใหญ่ฟัดกันเอง พวกเราเหล่าปลาน้อยหรือ SME ทั้งหลายก็ควรหันไปหาบ้านใหม่อยู่ดีกว่า ที่ยังสงบร่มเย็นพร้อมให้เราได้เติบโต เพราะขืนอยู่แบบเดิมต่อไป เราแย่แน่
โดยตอนท้ายได้ทิ้งท้ายไว้ว่าการที่เราเปลี่ยนแหล่งธุรกิจหรือกลุ่มตลาดหรือย้ายบ้านใหม่ไปทำอะไรใหม่ที่ยังไม่มีคนทำกันหรือทำกันน้อย ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า Blue Ocean หรือน่านน้ำสีฟ้า นั่นเอง โดยการเปลี่ยนกลุ่มตลาดไปทำธุรกิจใหม่ๆนั้นฟังดูอาจจะยากอยู่ แต่เชื่อผมเถอะถ้าไม่เริ่มตอนนี้ อีกไม่นานก็จะมีคนเข้ามาเหมือนเรา นานไปเรื่อยๆก็จะเปลี่ยนจากสีฟ้าสดใสเป็นสีแดงฉาดเหมือนเดิม ซึ่งเราก็ต้องหนีไปหาอะไรใหม่ๆต่อไป มันเป็นวัฐจักรของธุรกิจไปแล้ว
ผมขอยกตัวอย่างนึงพอให้เห็นภาพดีกว่า ว่าการทำธุรกิจน่านน้ำสีฟ้านั้นเป็นแบบใด
กลยุทธ์การทำธุรกิจในน่านน้ำสีฟ้านั้น ส่วนใหญ่ถ้าลองเปิดอ่านจากตำราภาษาอังกฤษนั้นเขาจะเน้นการสร้างนวัตกรรม (Innovation) งั้นผมจะขอเพิ่มเติมอีกสักสองสามข้อนะครับ
1. สร้างนวัตกรรม นวัตกรรมคือการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการที่แตกต่างจากสินค้าทั่วๆไป โดยเป็นการขจัดขีดจำกัดต่างๆของสินค้าออกไป ยกตัวอย่างสินค้านวัตกรรมง่าย ลองเดินไปดูร้านไดโซะ (60 บาททั้งร้าน) จะเห็นสินค้าหลายๆอย่างจากญี่ปุ่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ผงกันงู (ทำได้ยังไงลองซื้อไปใช้ดู) หรือสินค้าที่ในตลาดทั่วๆไปนั้นก็เป็นนวัตกรรม เช่น ร่มขวด (ร่มที่มีปลอกร่มเป็นขวดก็ถือเป็นนวัตกรรม ซึ่งการทำปลอกเป็นขวดนั้นก็คือการกำจัดข้อจำกัดของสินค้าออกไปคือการเก็บนั่นเอง) ซึ่งจุดเด่นของนวัตกรรมก็คือตอบสนองความต้องการของลูกค้านั่นเอง
2. การบริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการหลังการขายหรือก่อนการขาย เพราะในการผลิตของน่านน้ำสีแดงนั้นจะเน้นการผลิตมากกว่าเรื่องบริการ เพราะจะเน้นผลิตมากๆ เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด โดยไม่สนใจว่าผู้ใช้อยากใช้มั้ย เน้นต้นทุนมากกว่าความต้องการของลูกค้า การให้ความสำคัญกับการบริการจะสามารถซื้อใจลูกค้าในระยะยาวได้ ซึ่งสังเกตได้จากการแข่งขันของอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งหลายๆคนก็รู้ว่าโตโยต้ากับฮอนดานั้นเป็นเสือสิงห์กันมานาน แต่ที่โตโยต้าอยู่ในใจของคนไทยมากกว่าเพราะใครก็รู้ว่าเวลาเข้าไปในศูนย์บริการนั้นจะได้รับการต้อนรับของพนักงานมากกว่ารายอื่นๆนั่นเอง
3. การสร้างความแตกต่าง (Differentiation) เรื่องนี้เคยเขียนไว้ในหลายๆบทความแล้ว การที่เราจะอยู่ในน่านน้ำสีฟ้านั้นเราก็ต้องไม่เหมือนคนอื่นๆ เพราะถ้าเหมือนก็แสดงว่าเรายังวนเวียนอยู่ในท้องน้ำสีเลือดนั่นเอง ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ บริษัท แอปเปิ้ล ที่ผลิตแท็บเลตออกมาคือ iPad จากช่วงปีสองปีที่ผ่านมาที่ตลาดของคอมพิวเตอร์ลงไปกระจุกตัวกับเน็ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คกันอย่างมโหฬาร ไม่ว่าจะเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ลงมาแข่งกัน กระทั่งอย่าง Vio ของโซนี่ยอมดั๊มราคาของมาแข่งด้วยซ้ำ จนแอปเปิ้ลเปิดตัว iPad รุ่นแรกและขายเป็นเทน้ำเทท่า ทำให้หลายๆเจ้าต้องมองแอปเปิ้ลด้วยความอิจฉา จนสุดท้ายทนกับความเย้ายวนในมูลค่าตลาดแท๊บเลตไม่ไหว ก็ผันตัวเองลงมาเล่นด้วย จนจากตลาดแท็บเลตที่เป็นน่านน้ำสีฟ้าอยู่ดีๆ จนตอนนี้กลายเป็นตลาดน้ำสีแดงไปแล้ว
นี่ก็เป็นตัวอย่างของการทำกลยุทธ์ของธุรกิจน่านน้ำสีฟ้า ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่ยังวนเวียนอยู่ในทะเลอันโหดร้ายนะครับ
ขอให้มีความสุขในการทำธุรกิจนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น