ช่วงนี้หลายๆบริษัทหลายๆองค์กรก็จะเข้าสู่วันหยุดยาวๆแล้ว ใครมีแผนเอาโบนัสไปซื้ออะไรก็คิดหน้าคิดหลังไว้บ้างนะครับ ถ้าจะเอาไปซ่อมบ้านหลังน้ำท่วมก็ขอให้วางแผนดีๆเพราะอย่างที่รู้โลกเราเปลี่ยนไปมาก อะไรที่แน่มักไม่แน่ ช่วงนี้ห้างใหญ่หลายๆที่เริ่มลดกระหน่ำเครื่องไฟฟ้า ใครเมียงมองก็ลองไปดูได้ บวกกับค่ายมือถือเตรียมนำ iPhone 4S มาให้จับจอง ราคาตั้งแต่สองหมื่นต้นๆไปถึงสามหมื่นเลย ยังไงก็อย่าใจร้อนปีหน้า iPhone 5 มาแน่ รวมถึง iPad 3 ก็ไม่น่าพลาด เพราะ 4G ที่อเมริกากำลังมา (บ้านเรา 3G ยังเป็นหมันเลย) เกริ่นมาหอมปากหอมคอ ก่อนที่จะได้โบนัสนั้น เราก็รู้ใช่มั้ยครับว่ามันต้องมีการประเมินกันก่อน ใครจะมาแจกเงินเราง่ายๆถ้าเราไม่ได้ทำผลงาน ซึ่งการประเมินผลที่ได้รับนิยมมาแต่ช้านานคือการใช้หลัก BSC: Balanced Scorecard หรือแปลแบบไทยๆว่า... อย่าแปลดีกว่า เพราะเดี๋ยวความหมายจริงๆจะเพี้ยน โดยมุมที่ทาง BSC สนใจนั้นมีอยู่ 4 ด้านคือ
1. มุมมองด้านการเงิน ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญของเรื่องการเงิน รายได้ รายจ่ายขององค์กรเป็นหลัก
2. มุมมองด้านกระบวนการภายในองค์กร ให้ความสำคัญของเรื่องภายในองค์กรเป็นหลัก เช่น การประสานงาน ขั้นตอนการผลิตหรือการบริการ
3. มุมมองด้านลูกค้า เน้นเรื่องของการบริการหรือพวกความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Satisfaction)
4. มุมมองด้านการเรียนรู้และเติบโต เน้นการพัฒนาขององค์กร หน่วยงานรวมถึงตัวพนักงานเอง
ในการประเมินผลงานขององค์กรและพนักงานภายในไม่ว่าจะองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ ภาครัฐหรือเอกชนก็สามารถนำหลัก BSC ไปใช้ได้ โดยนำหัวข้อหรือมุมมองทั้งสี่ด้านมาเป็นตัวตั้งของหัวข้อการประเมิน เช่น
- มุมมองด้านการเงิน องค์กรอาจจะตั้งเป้าผลกำไร เช่น ปี 55 จะต้องได้กำไรไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน หรือตั้งยอดขายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
- มุมมองด้านกระบวนการภายใน องค์กรอาจตั้งเป้าให้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 20%
- มุมมองด้านลูกค้า อาจตั้งเป้าให้มีการเคลมจากลูกค้าลดลงไม่เกิน 10%ของยอดขาย
- มุมมองการเรียนรู้และเติบโต อาจตั้งเป้าโดยให้มีการอบรมเรื่องความปลอดภัยไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
นี่ก็เป็นตัวอย่างคร่าวๆของการนำเอามุมมอง BSC มาใช้
แต่แต่หัวข้อนั้นอย่างเดียวไม่พอ จะต้องมีตัวชี้วัดด้วย เพื่อให้ได้เป็นตัวประเมิน ถ้าเปรียบเทียบก็คือเกรดสมัยเราเรียนหนังสือนั่นล่ะ เกรด 1-4 อะไรประมาณนั้น โดนในเรื่องของตัวชี้วัดของแต่ละองค์กรจะไม่เหมือนกันถึงแม้จะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกัน ยกตัวอย่างง่ายให้ดู
สมมติว่า บริษัท A ดำเนินธุรกิจรีสอร์ท ตั้งเป้าหมายขององค์กรตาม KPI หัวข้อของ BSC ดังนี้
มุมมองด้านการเงิน
เกรด A กำไร 5 ล้าน
เกรด B กำไร 4 ล้าน
เกรด C กำไร 3 ล้าน
เกรด D กำไร 2 ล้าน
ถ้าพนักงานขายสามารถหาลูกค้าได้เท่าไหร่ก็จะประเมินตามเกรดนั้น
นี่ก็เป็นหลักการอธิบายง่ายๆเรื่อง BSC กับ KPI สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ภาครัฐหรือเอกชน
ถ้าใครสงสัยก็ติดต่อมาทาง Facebook หรือทาง email ได้ esmeservices@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น